วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

MY BEST GRANDFATHER





ปู่ผมชื่อ พล.ต.ต สันติ มลิทอง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 06.00 น. ขณะตื่นจากโรงแรมในจังหวัดนครราชศรีมา ได้รับข่าวจากคุณแม่ว่าคุณปู่เสียแล้วให้กลับบ้านด่วน ขณะนั้นผมเดินทางมาบรรยายให้กับทางบริษัท ที่เดอะมอลล์นครราชสีมา ตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 วันที่เดินทางมาก็ได้ทราบข่าวจากคุณแม่ว่า คุณปู่เข้าโรงพยาบาลเนื่องจากอาการเหนื่อย โดยปกติคุณปู่จะไปตีกอร์ฟทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ตั้งแต่หลังเกษียณอายุราชการตำรวจตั้งแต่ปี 2535 แต่ช่วงหลังปู่จะไปตีกอร์ฟเฉพาะวันจันทร์ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นประกอบกับโรคชรา

ความเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นแต่ไม่มีใครอยากให้เกิดและไม่มีทางรู้ว่าจะเกิด นั้นคือความรู้สึกแรกหลังจากรับโทรศัพท์ ปู่เป็นบุคคลตนแบบในหลายๆด้านในชีวิต ทั้งการทำงานการครองเรือน การใช้ชีวิตให้กับลูกๆหลานๆและบุคคลรอบข้าง เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในครอบครัวให้มีความสามัคคี ดูแลซึ่งกันและกัน คำสอนของปู่มีอยู่มากมายเหลือคณานับได้

บ้านที่อยู่อาศัยของปู่อยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ปู่อยู่กับย่า แม่ผม และหลานทั้งสองคือ น้องชายผม บีด หรือ นวันธร มลิทอง บัณฑิตนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผม สิทธินันท์ มลิทอง บัณฑิตรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ความเสียใจของผมคือ คุณปู่ไม่ได้อยู่เห็นความสำเร็จของผมที่กำลังศึกษา รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ถึงอย่างไร สิ่งที่ทำได้เพื่อคุณปู่ที่ล่วงลับคือการปฏิบัติตนตามคำสอนของปู่

คุณปู่ให้คำสอนเยอะมากในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเขียนคำสอนติดตามส่วนต่างๆของบ้านและบนรถ ถือว่าผมเป็นเด็กดื้อพอสมควร คำสอนที่ผ่านการพูดคุยกันระหว่างมื้ออาหาร หรือเวลาว่างๆของวันก็นั่งคุยกันภายในบ้าน ทางข้อความ และทางโทรศัพท์ในบางครั้ง


คำสอนของปู่

ขยัน ปู่สอนเสมอเรื่องการตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ ปู่เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร ปู่เล่าให้ฟังสมัยเป็นนักเรียน ว่า ต้องอ่านหนังสือตลอดเวลา บางวันอ่านจนดึกบางวันตื่นมาอ่านหนังสือแต่เช้าเพื่อที่จะมีความรู้สู้กับเพื่อนในรุ่นได้ ถึงปัจจุบันถ้ามาเที่ยวบ้านปู่จะเห็นว่าหนังสือเต็มบ้านไปหมด เรียกว่าเป็นครอบครัวนักอ่านเลยก็ว่าได้ครับ ผมก็ติดเชื้อการอ่านมาจากคุณปู่บ้างเล็กน้อย เรียกว่าเพิ่งจะมาติดได้ สองถึงสามปี หลัง หนังสือที่ปู่ชอบอ่านมากคือ เนชันเนล จีโอกราฟฟิค ฉบับภาษาไทย ปู่จะรับเป็นสมาชิกรายปี ปู่บอกว่ามีความรู้และมีประโยชน์มากเพราะเป็นการรวบรวมข้อมูลที่มีการวิเคราะห์แล้วจากทั่วโลกและได้รับการยอมรับจากนักวิชาการว่าสามารถนำมาอ้างอิงได้ ความขยันของปู่ไม่ใช่แค่การอ่าน แต่รวมถึงการทำงาน ผมอาจเกิดไม่ทันช่วงที่ปู่รับราชการ แต่ปู่เล่าให้ฟังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุราชการตำรวจครั้งแรก อยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ ต้องเดินเท้าหรือขี่ม้าเข้าไปยังพื้นที่ ต้องดูแลชาวบ้าน เวลาทำงานของปู่ที่เป็นราชการตำรวจคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ 4 สัปดาห์ต่อเดือน 12 เดือนต่อปี นั้นหมายความว่าคุณปู่ทำงานตลอดเวลา หรืออีกนัยหนึ่งคือเวลาราชการคือทุกเวลานั้นละครับ มีเรื่องหนึ่งที่ปู่เล่าให้ฟังว่า ขนาดที่นอนพักอยู่ที่บ้านพักในต่างจังหวัดเวลาประมาณตีสอง ชาวบ้านก็มาเรียกบอกเกิดเหตุ ฆาตกรรม คุณปู่เล่าว่าก็ต้องรีบแต่งตัวและออกไปที่เกิดเหตุ และดำเนินการตามวิธีของตำรวจ และมีอีกหลายเรื่องครับ ปู่จะพร้อมเสมอสำหรับให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเวลาส่วนตัวหรือตอนไหนก็ตาม แนวคิดนี้ทำให้ผมติดตัวเรื่องของการทำงานมาด้วย กล่าวคือ การทำงานเราต้องมีความพร้อมตลอดเวลา เตรียมตัวเตรียมใจและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดอยู่เสมอ นั้นคือความหมายของการมีชีวิต ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไร ทำตำแหน่งใหญ่โต หรือตำแหน่งเล็กๆ คุณได้ทำหน้าที่ของคุณอย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง

ประหยัด ปู่เล่าว่าสมัยตอนเป็นเด็กประเทศไทยหลังช่วงสงคราม ข้าวยากหมากแพงอาหารดีๆ หาทานยากมาก การมีข้าว กับข้าวดีทานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ดังนั้นการได้ทานข้าวและกับข้าวดีๆนั้น ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เรียกว่าโชคดีมาก คำสอนติดตัวผมมาเสมอครับ ทานข้าวเยอะๆทานกับน้อยๆ ทานให้อิ่มเป็นดี ทำให้เราเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย กินอะไรก็ได้ข้าวไข่ดาวก็อยู่ได้ ปู่ชอบทานข้าวบ้านชอบทานข้าวกันครบหน้าคนในครอบครัว ปู่มักจะเล่าเรื่องต่างๆในอคีตให้ฟังระหว่างทานอาหารเย็นร่วมกัน หากวันไหนเป็นวันดี หรือวันพิเศษเราจะออกไปทานข้าวนอกบ้านกันซักครั้ง บางทีผมก็พาไปทานอาหารนอกบ้านบ้าง ตามแต่สถานการณหรือวันพิเศษต่างๆ

วินัย ตามธรรมชาติตำรวจและนักเรียนเตรียมครับ วินัยมาที่หนึ่ง ทุกอย่างต้องทำอย่างมีวินัย ทานข้าวตรงเวลา ปกติ 19.00 น. ทานข้าวเย็น ตอนเตรียมอาหารเย็นให้คุณปู่ต้องเตรียมการให้อาหารเสร็จ 19.00 น. พอดี เพราะคุณปู่ชอบทานอาหารร้อนๆ ไม่ชอบทานเย็นๆ ฉะนั้นการปรุงอาหารต้องกะเวลาให้พอดี พอคุณปู่ออกจากห้องเราต้องยกขึ้นไป และการทำอาหารต้องทำในปริมาณไม่มากเพราะคุณปู่ประหยัด วันไหนทำกับข้าวมากไปจะถูกดุ ต้องทำแต่พอดีและพอเพียง นัดหมายเวลาเช่นกันครับ ถ้าวันนี้นัดปู่ออกไปนอกบ้าน ปู่จะบอกเวลาที่แน่นอน เช่น 11.00 น.นั้นหมายความ 11.00 น. ต้องออกเดินทางหากเตรียมตัวไม่ทันก็จะถูกดุเช่นเคย หรือถ้านัดหมายกับคนอื่นที่นอกบ้านปู่ก็จะออกไปก่อนเวลาไม่ให้ใครมาคอยแต่เราจะไปแบบทันเวลาพอดี สิ่งที่ติดตัวเรามาคือการตั้งนาฬิกาให้เร็วกว่าเวลาปกติ 10 นาที นั้นหมายความว่าเราจะไม่มีทางไปไม่ทันนัดโดยเด็ดขาด เพราะปู่นัด 10.00 น. เราก็จะเสร็จก่อน 10 นาทีนั้นเอง วินัยทุกเรื่องครับ การซักผ้าต้องซักให้แต่ละครั้งมีจำนวนผ้าที่เหมาะสมไม่เช่นนั้นจะเป็นการเปลืองน้ำ การรีดผ้าปู่ก็จะสอนให้รีดกลางวันเพราะกลางคืนต้องใช้ไฟ ทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่ใช้เหตุ นั้นละครับ การสอนของปู่ที่ทำให้เราคิดอย่างเป็นเหตุ เป็นผล


ซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์เป็นสมบัติของลูกผู้ชาย ปู่มักจะสอนเสมอว่าเราไม่ควรโกหกใครโดยเด็ดขาด แต่ต้องสามารถหาทางออกที่ดีที่สุดโดยไม่โกหก หรือคดโกงใครๆ โดยเด็ดขาด การโกงกินคนอื่นมาทำให้เราไม่มีความสุข ปู่เล่าเสมอว่าถ้าปู่โกงเหมือนคนอื่นป่านนี้บ้านเราคงร่วยมาก แต่หาความสุขมิได้ และปู่ก็ไม่ได้โกงใครเค้ามา ทำให้เราอยู่ได้อย่างพอเพียง และเป็นแบบอย่างให้กับผู้คนรอบข้าง เวลาปู่พาไปเทียวต่างจังหวัด ก็จะมีลูกน้องเก่าๆ เสนอตัวหาที่พัก อาหารการกินให้เสมอๆ โดยไม่ต้องร้องขอแต่อย่างใด แม้ปู่จะหมดอำนาจบารมีไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่น่านับถือของผู้ที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาเสมอ นั้นเป็นหลักฐานชัดยอดของการเป็น นายตำรวจผู้ซื่อสัตย์ มิได้เบียดเบียนใครมา



อดทน เกิดเป็นคนต้องอดทน เรื่องราวชีวิตของปู่เป็นข้อพิสูจน์ของคำว่าอดทน ปู่ไม่ได้เกิดในบ้านที่ล่ำรวย เป็นเด็กวัด แต่กัดฟันอดทนเล่าเรียนหนังสือ อดทนทำงาน อดทนต่อคนรอบข้าง เพื่อที่จะผ่านเรื่องราวที่ไม่ดีให้เราสามารถก้าวผ่านไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้เสมอ ปู่สอนว่าการครองชีวิตคู่มีครอบครัวต้องรู้จักอดทน ถนอมน้ำใจคนในครอบครัว ให้จิตเป็นนายกายเป็นบ่าวบางเรื่องที่เรารู้ว่าไม่ถูกต้องบ้างครั้งก็ไม่ต้องพูดหรือแสดงออกมา แต่ให้ดูคนในครอบครัวว่ามีความพึงพอใจเช่นไร จะทำให้มีครอบครัวที่รักกันนานเป็นร่มโพดิ์ร่มไทรให้กับลูกหลานและผู้ที่เคารพนับถือ การรู้จักยอมถอยและการเสียสละคือสิ่งที่ปู่แสดงให้เห็นอยู่เสมอ ปู่เสียสละเพื่อครอบครัวมาโดยตลอด สละความสุขหลังเกษียณ เพื่อให้หลานๆได้มีอนาคตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งหลานไปโรงเรียน การสอนหนังสือ การดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัว นั้นละครับ ความอดทนของปู่ที่อดทนมายาวนานหลายทศวรรษ จนเป็นแบบอย่างให้กับหลานๆ ในการนำสิ่งที่ปู่เป็นสิ่งที่ปู่ทำ ไปปฏิบัติเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิตในอาชีพ



ก่อนเวลาที่ปู่จากไป เราได้มีโอกาส วีดีโอคอล คุยกันสั้นๆ ตอนนั้นปู่อยู่โรงพยาบาล ผมกำลังกลับที่พักจากการเป็นวิทยากรอบรม ที่เดอะมอลล์นครราชสีมา ปู่เหมือนอยู่ในหนังสตาร์วอส์ ใส่เครื่องพ่นยา โบกไม้โบกมือให้กับผมในวีดีโอคอล เป็นภาพสุดท้ายที่เราได้เจอกัน แต่ความทรงจำจะยังคงอยู่ชั่วนิรันด์







VDO CALL วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559
เวลา 19.30 น. ก่อนปู่จากไป  3 ชั่วโมง





อาลัยรัก
สิทธินันท์ มลิทอง 
17 กุมภาพันธ์ 2559

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น